เกมพนันออนไลน์ มีหลายเกมมาก แต่ละเกมนั้นมีกฎกติกาการเล่นที่ต่างกันไป หากคุณอยากเล่นเกมอะไรก็ต้องศึกษาวิธีการเล่นให้ดี เพื่อให้คุณนั้นเล่นได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ ตอบสนองทุกความต้องการของคุณได้ รับรองเลยว่าคุณจะมีความสุขในการเล่นมากยิ่งขึ้น และในวันนี้เราจะมาพูดถึง ไพ่ 13 ใบ ไพ่แสนสนุกที่นักพนันหลายคนเลือกเล่นกัน งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า ไพ่ 13 ใบมีวิธีเล่นอย่างไรบ้าง เพื่อให้คุณเล่นได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ ตอบสนองต่อความต้องการของคุณได้

ไพ่ 13 ใบ คืออะไร

ไพ่ 13 ใบ หรือ ไพ่ 3 กอง เป็นเกมไพ่ที่ได้รับความสนใจจากนักพนันจำนวนมาก เป็นหนึ่งเกมไพ่ที่ไม่ได้พึ่งพาแต่ดวงในการเล่นเท่านั้น แต่ยังต้องมีไหวพริบที่ดีด้วย จะอาศัยดวงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะว่ายังต้องมีความรู้ในเรื่องลำดับของไพ่ด้วย ว่าไพ่แบบไหนใหญ่ที่สุด เล็กที่สุด และที่สำคัญจะต้องจัดเรียงไพ่ด้วยความรวดเร็วด้วย เพื่อให้ทันต่อระยะเวลาที่มีจำกัด และสำหรับใครที่อยากเล่นไพ่ตัวนี้ก็สามารถเข้าเล่นได้เลย เพียงแต่ว่าต้องหาเว็บที่เปิดให้บริการในการเล่น เพราะบางเว็บก็มีให้เล่น บางเว็บก็ไม่มี คุณจะต้องดูในส่วนนี้ให้ดีด้วย

การเรียงลำดับ ไพ่ 13 ใบ อะไรบ้างที่ต้องรู้

1. สำหรับลำดับเล็กใหญ่ของไพ่ จะเรียงได้ดังนี้ เริ่มจาก ชุดมังกร, สเตรทฟลัช เรียงสี , ไพ่เหมือนกัน 4 ใบ , ฟูลเฮาท์ , สีเดียวกัน 5 ใบ , เรียง , ไพ่เหมือนกัน 3 ใบ , ไพ่ 2 คู่ , ไพ่คู่ , ไพ่ธรรมดา เป็นต้น เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะเล่นเกมนี้จริง ๆ คุณจะต้องเรียนรู้ในส่วนของการเรียงไพ่ด้วย ว่ามีลักษณะอย่างไรบ้าง เช่น ลำดับเล็กใหญ่ของแต้ม คือ A , K, Q, J, 10, 9, 8, 7, 6, 5, 4, 3, 2
2. รูปแบบการจัดเรียงไพ่ควรมีรูปแบบ การเล่นไพ่ 13 ใบแบบออนไลน์ คุณจะต้องทำความเข้าใจในเรื่องการจัดเรียงรูปแบบของไพ่ โดยในการเล่นนั้นจะต้องใช้ไพ่ทั้งหมด 52 ใบ และต้องใช้หลายสำรับในการเล่น และจะใช้ผู้เล่น 2 คนขึ้นไป
3. รูปแบบของการคัดไพ่แบ่งออกเป็น 3 แถว คือ 3-5-5 และในแถวบนสุดจะต้องมีแต้มน้อยที่สุด และแถวกลางจะมีแต้มที่เรียงลำดับกลางแถว และควรเริ่มต้นจากแถวล่างก่อนเพื่อใช้เป็นฐาน โดยแถวที่มีแต้มมากที่สุด จะเป็นไพ่แบบโฟร์ ไพ่ฟลูเฮาท์ ไพ่เรียง ส่วนแถวกลางคุณสามารถเรียงไพ่แบบโฟร์ ไพ่ฟลูเฮาท์ แต่ไม่ควรนำเอาสเตรทฟลัช มาเรียง เพราะไพ่อาจฟาวล์ได้

วิธีการเล่น ไพ่ 13 ใบ

เมื่อคุณต้องการเล่น ไพ่ 13 ใบ คุณจะต้องทำความเข้าใจหมวดหมู่ของไพ่ และ วิธีการเล่นกันก่อน เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถเล่นได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นหลักการเบื้องต้นในการเล่นอยู่แล้ว คุณจึงต้องทำความเข้าใจและใช้ประสบการณ์ในการเล่น ช่วยให้เรียงไพ่ได้รวดเร็วและถูกต้อง

1. หมวดหมู่ของไพ่จะมีอยู่ 4 หมวด ดังนี้ โพดำ เป็นใบโพสีดำ ถือเป็นโพที่ใหญ่ที่สุด โพแดง เป็น รูปหัวใจสีแดง ถือเป็นโพอันดับสอง อันดับที่ 3 คือ ดอกจิก เป็นใบดอกจิก สีดำ ส่วนโพสุดท้าย คือ ข้าวหลามตัด มีสัญลักษณ์คือ ข้าวหลามตัดสีแดง ถือเป็นโพอันดับเล็กสุด ซึ่งแต่ละหมวดจะมีไพ่ทั้งหมด 13 ใบ คือ คล้ายกับการเล่นไพ่โป๊กเกอร์เลย การนับเลขแทนค่าใช้กฎสากล แต่อาจมีข้อแตกต่างในเรื่องของการแจกไพ่และวิธีการเล่นบ้าง เมื่อคุณเข้าใจเรื่องหมวดหมู่แล้ว คุณก็ต้องรู้ด้วยว่าวิธีเล่นมีอะไรบ้าง
2. ไพ่ 13 ใบ หรือไพ่สามกอง จะต้องมีผู้เล่นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป สำหรับการเริ่มเกมจะมีการวางเดิมพันเท่ากัน
3. เมื่อมีการการแจกไพ่ ให้กับผู้เล่นแต่ละคน โดยแต่ละคนจะได้รับไพ่ทั้งหมด 13 ใบ
4. นำ ไพ่ 13 ใบที่ได้รับมาจัดเรียงภายในเวลา 1 นาที ให้ไพ่แถวที่ 1 เป็นไพ่ที่มีลำดับใหญ่ที่สุด รองลงมาเป็นแถว 2 และแถว 3 ตามลำดับ
5. ถ้าไพ่ที่จัดเรียงถูกต้อง จะมีสัญลักษณ์ O อยู่ด้านหน้าแถวไพ่ แต่ถ้าเรียงผิด จะมีข้อความแจ้งเตือนในระบบให้จัดเรียงใหม่
6. เมื่อจัดเรียงไพ่เแล้ว กดปุ่มคำว่า จัดไพ่เสร็จแล้ว จะเริ่มหาผู้ชนะในเกมนี้ โดยเริ่มเทียบผลจากแถวที่ 1, 2 และ 3 ตามลำดับด้วย
7. แต่ถ้ามีผู้เล่นคนใดได้ไพ่ชุดมังกรก็ชนะเกมนี้ไปเลย เพราะถือเป็นไพ่ใหญ่ที่สุด และถ้าคุณนั้นชนะผู้เล่นอื่นทั้ง 3 แถว จะถือเป็นการ All Kill จะได้รับโกลด์ X2 เท่า
8. แต่ในระบบออนไลน์นี้จะมีการอำนวยความสะดวกให้คุณได้อย่างเต็มที่ มีการจัดเรียงไพ่แบบอัตโนมัติ คุณสามารถกดเรียงไพ่อัตโนมัติได้เลย

นี่คือการเล่น ไพ่ 13 ใบ ในระบบออนไลน์ ซึ่งคุณสามารถเรียนรู้การเล่นได้ด้วยตนเอง รับรองเลยว่า คุณจะเล่นได้อย่างถูกต้องแน่นอน เมื่อคุณนั้นได้เรียนรู้เรื่องของวิธีการเล่นแล้ว คุณจะต้องเข้าใจในเรื่องของอัตราการจ่ายของไพ่ 13 ใบด้วย เพื่อจะได้คำนวณอัตราการจ่ายเงินของไพ่ได้อย่างถูกต้อง เพื่อคุณคำนวณได้ด้วยตนเองเลยว่า คุณจะได้เงินจากการเล่นเท่าไร ต้องเรียงไพ่อย่างไร ทำไพ่แบบไหนจึงจะทำให้ได้เงินมากยิ่งขึ้น

รู้จักอัตราจ่ายเงินของ ไพ่ 13 ใบ แต่ละแบบ

สำหรับอัตราการจ่ายเงินที่มีหลายรูปแบบเช่น ไพ่ธรรมดา และ ไพ่น็อค มีอัตราการจ่าย 1 เท่า ไพ่สิบแต้มครึ่ง ส่วน ไพ่เทวดา และ ไพ่เทวดามีแต้มสิบแต้มครึ่ง มีอัตราการจ่าย 2 เท่า เมื่อคุณได้เรียนรู้ในเรื่องอัตราการจ่ายเงินของไพ่ 13 ใบ แล้วจะต้องเรียนรู้การนับจำนวนการได้เสียของไพ่ด้วย เพื่อให้คุณได้รู้ว่า ไพ่แบบไหนได้แบบไหนเสีย ซึ่งในเรื่องของการนับไพ่ได้เสีย จะทำเมื่อเริ่มเล่นเกม และเริ่มนับการเรียงไพ่ และเมื่อคุณเข้าใจในเรื่องอัตราจ่ายเงินของไพ่แล้ว สิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องเรียนรู้ คือ เทคนิคที่ทำให้ได้โบนัส เพราะว่าจะช่วยให้คุณนั้นได้เงินจากการเล่นจำนวนมาก หรือ ทำให้คุณชนะในเกมนั้นได้

เรียง ไพ่ 13 ใบ ให้ได้ไพ่โบนัสต้องทำอย่างไร

สำหรับการเรียงไพ่ 13 ใบให้ได้โบนัสนั้นก็ทำได้ไม่ยาก งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าเราจะเรียงไพ่อย่างไรให้ได้โบนัส การเรียงไพ่ 13 ใบจะมี 4 รูปแบบ คือ ไพ่มังกร ซึ่งจะเป็นไพ่ที่มีการเรียงทั้งหมด 13 ตัว ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีสีหรือดอกเดียวกัน , ไพ่สเตรทฟลัช จะต้องได้ไพ่สีเดียวกัน ไพ่โฟร์ จะเป็นไพ่เหมือนกัน 4 ใบ ส่วนไพ่อีกใบเป็นอะไรก็ได้ และไพ่ตองจะต้องมีไพ่ 3 ใบที่มีหมายเลขเดียวกัน

คุณจะเห็นได้ว่า การทำโบนัสไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย แค่คุณต้องเข้าใจในเรื่องของกฎกติกาการเล่นต่าง ๆ ให้ดี และเรียนรู้ในเรื่องของการเรียงไพ่ด้วย เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คุณเอาชนะเดิมพันได้ แต่เรื่องของการเล่นไพ่ 13 ใบนี้ มันไม่ได้อาศัยแค่จังหวะในการเล่นเท่านั้น แต่ยังต้องมีไหวพริบในการเล่นที่ดีด้วย ซึ่งการที่จะมีไหวพริบตัดสินใจได้รวดเร็วคุณจะต้องเข้าเล่นในเกมนี้ให้บ่อยพอควร เพื่อเข้าใจไพ่ เข้าใจสถานการณ์ในการเล่น

สรุป ไพ่ 13 ใบ เป็นไพ่ที่มีลักษณะการเล่นคล้ายกับโป๊กเกอร์แต่อาจมีความแตกต่างกันบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องเรียนรู้ในเรื่องกฎกติกาและวิธีการเล่นให้ดี เพื่อให้คุณเล่นได้อย่างถูกต้อง แต่สิ่งสำคัญที่สุด นั่นคือ การเลือกเว็บในการเล่น เพื่อให้คุณนั้นเล่นพนันได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ และถึงคุณจะเรียนรู้ทุกอย่างได้ดีแล้ว แต่คุณต้องเข้าใจว่า การเล่นพนันทุกอย่างมีความเสี่ยง คุณจึงต้องวางแผนการเล่นให้ดีด้วย เพื่อให้การลงเดิมพันของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ